หลังมีภาพ “กรุง สุขสันต์” อดีตสามีของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “สาวมาด เมกะแดนซ์” หรือชื่อจริง น.ส.สุรดา ชมวงค์ อายุ 42 ปี เจ้าของเพลงดังอย่าง “ดาวมหาลัย” และ “สาวลาดพร้าว” เข้าพิธีแต่งงานกับแม่ม่ายลูกติด เจ๊ดา-ปิญดา เรืองแจ่ม นายทุนสร้างหนัง “อีปึก มหัศจรรย์วันแห่งศรัทธา” เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายชาย
ล่าสุด ‘สาวมาด’ เพื่อสอบถามถึงเรื่องนี้ โดยนักร้องสาวเปิดใจด้วยน้ำเสียงแจ่มใสว่า “ไม่ทราบเรื่องมาก่อนจริงๆ วันนี้มีนักข่าวโทร.มาสอบถามเยอะมาก จนเริ่มตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างในเฟซบุ๊กส่วนตัวก็มีคนเข้ามาถามตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ว่าเห็นรูปมั้ยที่เขาแต่งงาน เราก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง เพราะเขาบล็อกเฟซบุ๊ก ส่วนตัวก็ไม่ได้สอบถามเขาว่าอะไร ยังไง เพราะเลิกราตัดขาดแยกบ้านกันอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แล้วแต่เขาจะไปทำอะไรก็เรื่องของเขา ในเมื่อเลิกกันแล้ว เขาจะไปแต่งกับใครก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไร
คนที่อดีตสามีของเราแต่งงานด้วยคือคนที่เคยเป็นนายทุนสร้างหนังให้ ตอนนั้นมีระแคะระคายความสัมพันธ์ของทั้งคู่บ้างไหม ลูกทุ่งสาวกล่าวว่า ไม่ระแคะระคายอะไรเลย มีแต่คนในทีมงานมาพูดให้ฟังว่า สองคนนี้สนิทกันเกินไป ออกหน้าออกตา ไม่เหมือนนายทุนกับผู้กำกับ แต่เราไม่ได้สนใจ คิดว่าเขามาทำหนังให้ ตอนนั้นคิดว่าเป็นคนอื่นมากกว่า(หัวเราะ) เอาเป็นว่าถ้าเขาจะมีแฟนใหม่ก็ขอให้เป็นคนดีก็พอตอนที่มีคนมาพูดให้ฟัง ตัวเรากับอดีตสามียังไม่ได้เลิกรากันใช่ไหม สาวมาดตอบว่า อยู่บ้านหลังเดียวกัน ยังไม่ได้เลิกรากันเด็ดขาด เขาออกไปทำหนัง ทำเสร็จก็กลับมาบ้านเหมือนเดิม แต่ว่ามาเลิกรากันเด็ดขาดประมาณเดือนต.ค. เข้าพ.ย.ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาออกไปทำหนังแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ไหน มีแต่คนมาเล่าให้ฟังว่าทำหนังบ้าอะไร เขาไปอยู่บ้านกับเมียน้อยแล้ว แต่ว่าเราก็ไม่ได้สนใจ ฉะนั้นพอรู้ข่าวว่าเขาแต่งงานใหม่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างคนก็ต่างมีชีวิตของตัวเอง ไม่อาฆาต ไม่จองเวร เพราะเรื่องของเรากับเขามันจบไปแล้ว อีกอย่างเราสองคนแค่แต่งงานกันถูกต้องตามพิธีการ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพราะยังไม่มั่นใจอะไรหลายๆ อย่าง รวมเวลาที่อยู่กันเป็นสามีภรรยาก็ประมาณเกือบ 3 ปี
เคยคิดย้อนกลับไปไหมว่าตอนนั้นอดีตสามีนอกใจเราหรือเปล่า สาวมาดกล่าวว่า ไม่ทราบ เราไม่ได้คิดไปมากถึงขนาดนั้นค่ะ ทุกวันนี้อยู่บ้านก็สวดมนต์กับเขียนเพลง เรื่องของเขาไม่ได้สนใจ ขอแค่อย่าให้ลูกอดก็พอ ทุกวันนี้เขาก็เลี้ยงแต่ลูก ไม่ได้เลี้ยงเรา เขาเอาลูกไปอยู่กับพ่อแม่ของเขา คือเราไม่สามารถดูแลลูกได้เพราะเดินไม่ได้ ตอนนี้เราอยู่บ้านที่สระบุรี อยู่กับเพื่อนและลูกศิษย์ 2-3 คนที่มาทำกับข้าวกับปลาให้กิน ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำบากพอสมควรเพราะทำงานไม่ได้
แล้วกับเรื่องบ้านที่เห็นว่าจะโดนยึด ตอนนี้คืบหน้าถึงไหนแล้ว ลูกทุ่งสาวบอกว่า ไม่โดนยึดแล้วค่ะ พอดีว่ามีพี่ชายที่รู้จักเข้ามาช่วยโดยหานายทุนคนใหม่มาเปลี่ยนมือ ซึ่งเขาก็อะลุ่มอล่วยให้ และไม่ได้มีการยึดบ้านแล้ว เรื่องของเรื่องคือนายทุนคนแรกที่อดีตสามีเราเอาบ้านไปจำนองไว้ 6 แสนกว่าบาทเพื่อทำหนัง ซึ่งไม่ใช่คุณดานะคะ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ จากนั้นเขาก็เลยไปหาคุณดาให้มาช่วย เราก็ปล่อยให้เขาจัดการกันสองคน ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นหนี้แล้วเราก็อยากจะหมดหนี้ แต่พอหนังแป้กก็ไม่มีเงินส่ง ทำให้บ้านจะถูกยึด จนกระทั่งพี่ชายที่สนิทกันเข้ามาดูแลเรื่องการใช้หนี้ให้เพื่อไม่ให้โดนยึด นายทุนคนใหม่ก็ให้เราอยู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเคลียร์บ้านหลังใหม่ได้ คือบ้านที่เราอยู่ก็ประกาศขายอยู่ ถ้าขายเสร็จก็จะเอาเงินไปใช้หนี้และเอาส่วนที่เหลือไปปลูกบ้านหลังเล็กๆ อยู่
ปลงกับชีวิตไหม สาวมาดบอกว่า ใช่ค่ะ เขาอยากไปก็ไปเถอะ ในเมื่อเรามีสภาพแบบนี้ ไม่สามารถให้ความสุขกับเขาได้ คงไม่มีใครจะมาทนอยู่ด้วยหรอก ถามว่าน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองมั้ย ที่ครั้งหนึ่งมีชื่อเสียงมีเงินทองและมีผู้ชายมาดูแล แต่พอเราไม่มีอะไรแล้วเขาก็ไปหาคนใหม่ที่รวยกว่าแทน ไม่น้อยใจค่ะ รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้นมากกว่า เพราะเมื่อก่อนเราก็มีเงินมีทองแบบเขา จริงๆ คุณดาเคยมาที่บ้านและพูดกับเราว่า “เขามารับกรรมจากสาวมาดไปต่อนะ” ตอนนั้นก็งงว่าเขาหมายถึงกรรมอะไรเหรอ แต่ถ้าอยากได้ก็เอาไปเถอะ คือพูดเล่นๆ ไม่นึกว่าจะเป็นความจริง
“ที่ผ่านมาก็คิดแค่ว่าเราตัดสินใจผิด ไม่ดูคนให้ดีๆ ไม่น่าพลาดเลย เงินทองน่าจะเหลือมากกว่านี้ แต่กลับไปไว้ใจคนใกล้ตัวที่ไม่คิดว่าวันนึงจะมาทำกับเราแบบนี้ เรารู้สึกเสียใจแค่เรื่องนี้เอง” สาวมาดกล่าว
แฟนๆ หลายคนเป็นห่วงเพราะเจอปัญหาสุขภาพกายแล้ว ยังมาเจอปัญหาสุขภาพใจอีก ลูกทุ่งสาวกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมา แต่ไม่ต้องห่วง จิตใจของเรายังแข็งแรงพอที่จะต่อสู้ได้ กลางปีนี้จะมีคอนเสิร์ตที่คาราบาวร่วมกับมูลนิธิหน่วยแพทย์อาสาฯ ทำขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเราในยามที่ลำบากทำงานไม่ได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด